ทำไม Start-ups ไม่โตก็ตาย

ปี 2562 เพิ่งสิ้นสุดไป เราเพิ่งก้าวเข้าสู่ปีใหม่ได้ไม่กี่วัน หลายคนอาจได้ยินข่าวเกี่ยวกับการล้มเหลวของ Start-up มากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เฉพาะในประเทศไทย ข่าวใหญ่สะเทือนวงการมากที่สุดน่าจะเป็นการประกาศปิดตัวของ DTAC Accelerate โดย DTAC Accelerate ให้เหตุผลในการปิดตัวครั้งนี้ว่าตลอดระยะเวลา 7 ปีที่บริษัทดำเนินการมา บริษัทขาดทุนมาตลอด ไม่ทำเงินเลยนั่นเอง หากเราไปดูข้อมูลโดยละเอียด บริษัท DTAC Accelerate จัดตั้งขึ้นในปี 2557 ปีแรกมีกำไรจากการระดมทุน 15 ล้านบาท ปี 2558 บริษัทมีรายได้เพียง 85,549 บาท ขาดทุน 7 ล้านบาท แม้ว่าในปีต่อ ๆ มา บริษัทจะมีกำไรหลักล้านบาท แต่มีผลขาดทุนสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในปี 2561 มีการขาดทุนสะสม เกือบ 40 ล้านบาท (รวบรวมโดย Marketeer, มกราคม 2563) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทดำเนินงานมา บริษัทได้ให้ทุน Start-up ที่ชนะจากการเข้าร่วมในการแข่งขันมากมายกว่าครึ่งร้อยโครงการ แต่มีเพียงโครงการเดียวที่บริษัทสามารถขายให้กับ OOKBEE ได้ นอกนั้นยังเป็นโครงการที่ต้องการการลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่โฟกัสที่การทำกำไร

นอกจาก DTAC Accelerate แล้ว เรายังมีการแข่งขัน Start-up มากมายที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนของไทย DTAC Accelerate เป็นหนึ่งในผู้จัดการแข่งขันและ Private Fund สำหรับ Start-up รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นพร้อม ๆ กับ Krungsri Rise, AIS, DEPA, Start-up Thailand ฯลฯ ผู้ชนะในการแข่งขันเหล่านี้ ได้รับเงินทุนไปดำเนินโครงการของตนโดยผู้ให้ทุนหวังว่าจะก่อให้เกิดเป็น Unicorn Start-up ของประเทศไทย แต่ในความเป็นจริง Start-up เหล่านี้ ก็เข้าร่วมการแข่งขันของบริษัทอื่น ๆ ต่อไปเพื่อหาเงินทุนไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้โฟกัสไปที่การบริหารกิจการของตนเองให้มีกำไร Founder ของ Start up เหล่านี้ก็จะวนไปขึ้นเวทีต่าง ๆ เพื่อหาเงินทุนมาเพิ่มในกิจการของตน

นอกจาก Start-up สัญชาติไทยที่ไม่โตเพราะติดกับดักนี้แล้ว ก็ยังมีข่าว Start up ยักษ์ใหญ่ต่างชาติที่มีการดำเนินการในประเทศไทยก็อีกมากมายที่ไม่ล้มเหลว ก็ไม่โต อยู่ในสถานะที่เรียกว่า “ซอมบี้” ซึ่งอาจจะเลือกเองหรือโดนบังคับให้อยู่ในสถานะนี้

เรามาพิจารณา Start-up ที่ล้มเหลวหรืออยู่ในสถานะซอมบี้ เราจะเห็นว่า Start-up กลุ่มนี้มักจะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และมักจะคิดถึงเพียงว่าทำอะไรได้บ้าง Start-up กลุ่มนี้มักจะลืมนึกถึง Bottom Line ในการบริหารธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งก็คือการสร้างกำไรนั่นเอง ยังไม่พูดต้องถึงการสร้างกำไรสูงสุดซึ่งเป็นเป้าหมายของนักเศรษฐศาสตร์ หรือการทำยอดขายให้ถล่มทลายของนักการตลาด

โดยส่วนตัวเห็นว่า จริง ๆ แล้วมีเหตุผลเพียงสองข้อเท่านั้นที่ทำให้สตาร์ทอัพต่าง ๆ ไม่ประสบความสำเร็จ อันได้แก่:

  1. ธุรกิจของสตาร์ทอัพนั้น ๆ ไม่สามารถทำได้ — สตาร์ทอัพหลายแห่งไม่เข้าใจวิธีการบริหารกิจการหรือโมเดลธุรกิจของตนเอง บางแห่งไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ บางแห่งไม่มีการจัดการต้นทุนและบริหารรายได้ที่ดีทำให้ต้นทุนสูงกว่ารายได้ที่มีกิจการก็จะไปไม่รอด มากไปกว่านั้น สตาร์ทอัพหลายแห่งไม่ได้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ของเค้า ทำให้ไม่สามารถทำกำไรได้ เนื่องจากผู้ใช้ไม่ต้องการจ่ายเงินให้กับนวัตกรรมที่สร้างขึ้น นั่นคือ สินค้าของพวกเขาไม่เป็นที่น่าปรารถนาของผู้ใช้ หรือผู้ใช้สามารถหาสินค้าอื่นมาทดแทนได้ง่าย เหมือน e-commerce หลายแห่งที่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีกำไร ทั้งยังต้องเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อสร้าง Transaction ให้เกิดขึ้นในเว็บไซต์ของตนเองเพื่อให้ผู้ขายและผู้ซื้อยังอยู่บนแพลทฟอร์มของตนเองต่อไป โดยหวังว่าในอนาคต เมื่อผู้ใช้ติดการใช้งานแพลทฟอร์มของตนก็จะอยู่และทำธุรกรรมต่าง ๆ บนแพลทฟอร์มของตนและจะสร้างกำไรในอนาคต ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่ก็ได้
  2. คน — มีคน 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ที่มีผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของสตาร์ทอัพ ซึ่งก็คือ ผู้ใช้ และผู้ก่อตั้ง (หรือผู้บริหาร) ของสตาร์ทอัพนั้น ๆ สตาร์ทอัพหลายแห่งสร้างสินค้าหรือนวัตกรรมของตนจากไอเดียของผู้ก่อตั้งเพียงอย่างเดียว บางแห่งได้รับการตรวจสอบไอเดีย (Validate idea) โดยคณะกรรมการการแข่งขันสตาร์ทอัพต่าง ๆ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ผู้ใช้ของสตาร์ทอัพนั้นจริง ๆ ซึ่งอาจทำให้เราได้นวัตกรรมที่ไม่เป็นที่ปรารถนาของผู้ใช้ ซึ่งเค้าก็จะไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินในการซื้อหรือใช้นวัตกรรมนั้น ๆ ที่แย่คือสตาร์ทอัพบางแห่งไม่มีการตรวจสอบไอเดียใด ๆ เลย ซึ่งการตรวสอบนี้ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะพัฒนาและจะเปิดขายอะไรและเมื่อไร หากคนกลุ่มนี้เชื่อมั่นในตนเองมาก จนตัดสินใจว่าจะไม่ตรวจสอบไอเดียของตน นวัตกรรมที่สร้างขึ้นก็ไม่น่าจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และไม่เป็นที่น่าปรารถนาสำหรับผู้ใช้นั่นเอง อีกปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับคน ก็คือ การไม่มีทักษะในการบริหารจัดการและการไม่มีวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหาร หากผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหารของสตาร์ทอัพใด ๆ ไม่มีความเข้าใจที่ดีในการบริหารกิจการ โดยเฉพาะด้านการตลาด ด้านการเงิน และทรัพยากรมนุษย์ กิจการนั้น ๆ ก็จะเป็นไปได้ยากที่จะทำเงินหรือสร้างกำไรในท้ายที่สุด ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือ Decision maker เป็นบุคคลสำคัญในการดำเนินธุรกิจไม่เฉพาะแต่เพียงสตาร์ทอัพเท่านั้น ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพไม่ควรมีเพียงคนที่มีทักษะทางเทคนิคเท่านั้นแต่ควรมีผู้ที่มีความเป็นผู้นำที่ดีและมีทักษะด้านการบริหารจัดการที่เป็นเลิศอีกด้วยเพื่อที่จะให้สตาร์ทอัพนั้น ๆ เติบโตและทำกำไรต่อไปในอนาคต ไม่ใช่แค่อยู่รอดด้วยการหาเงินทุนเท่านั้น

เพื่อที่จะทำให้สตาร์ทอัพของเราเติบโต นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปในยุคนี้ ยุคที่นักลงทุนตระหนักถึงความไม่แน่นอนของตลาดและความล้มเหลวของสตาร์ทอัพที่เกิดขึ้น เราต้องการนวัตกรรมที่เป็นนวัตกรรมที่เป็น “real-win-worth it” “ธุรกิจ” และ “คน” มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจต่าง ๆ “ธุรกิจ” หมายรวมถึง โมเดลธุรกิจ คุณค่าที่นำเสนอ ที่มาของรายได้ โครงสร้างต้นทุน และด้านอื่น ๆ ที่รวมกันทำให้ธุรกิจของเราดำเนินการได้ “คน” หมายถึง ทีมบริหาร ผู้ใช้ และผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและตรวจสอบสินค้าของสตาร์ทอัพนั้น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่านวัตกรรมที่เราสร้างขึ้นเป็นที่น่าปรารถนา เมื่อนวัตกรรมของเราเป็นที่น่าปรารถนาสำหรับผู้ใช้ ซึ่งจะหมายความว่าผู้ใช้ก็น่าจะเต็มใจจ่ายเงินในการใช้หรือซื้อนวัตกรรมของเรานั่นเอง นั่นคือ อย่างน้อยธุรกิจของเราก็จะมีลูกค้าและสร้างรายได้ให้อยู่รอดได้

For English version, please visit: What’s lead to failure of start ups

ใครสนใจมาร่วมเรียนรู้ด้วยกันกับ A Cuppa Academy เดือนมีนาคม 2563 เราเปิด 2 คอร์สด้วยกัน:

– 8 มีนาคม 2563 10.00–18.00 น กับคอร์ส The First Step to Become a Real UX Designer รุ่นที่ 6 สำหรับนักออกแบบ UX/UI และนิสิตนักศึกษาที่สนใจด้านการออกแบบ UX/UI เจ้าของกิจการ SME และ Start ups ที่ต้องการเรียนรู้กระบวนการออกแบบ UX อย่างครบถ้วนจากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ UX/UI ผู้มีประสบการณ์กว่า 18 ปี

– 29 มีนาคม 2563 10–18.00 น กับคอร์ส A Practical Way of Data Driven Strategic Digital Marketing รุ่นที่ 5 (หลักสูตรปรับปรุงจากคอร์ส A Day with Digital Marketing on Facebook รุ่นที่ 1–4) คอร์สนี้ อ.เจ และ อ.น๊อต จะมาสอนการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ การเลือกใช้ช่องทางต่าง ๆ ให้เหมาะสมไม่จำกัดเพียง Facebook อีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด หรือเจ้าของกิจการ ก็ต้องวางกลยุทธ์และเลือกช่องทางให้เหมาะสมกับสินค้าและบริการของเราเพื่อให้ธุรกิจของเราอยู่รอดได้ในสภาวะที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้


Photo Credits:

Photos by Startaê Team, Austin Distel, Ben Kolde, You X Ventures and Proxyclick Visitor Management System on Unsplash

What’s lead to Failure of Start-ups

A Cuppa Academy

2019 has gone with many news regarding failures of Start-ups, especially in Thailand when DTAC Accelerate announced that they are closing down as they do not making any money for 7 years consecutive. For many years, we have seen so many Start-up competitions supported by either public or private sectors in Thailand. DTAC Accelerate was one of the biggest start-up competitions as well as a private fund in Thailand; it has been founded about the same time with Krungsri Rise, AIS, DEPA, Start-up Thailand, etc. With these competitions, the winners won the first investment, and then they go to the next competitions to get another to raise more funds, they’d do like this till they become grown-up start-ups. Apart from Thai Start-ups who have failed to grow up, there are also foreign start-ups who have set their operations in Thailand that are recently fail or in a so called “zomby” status either by choice or forced to be.

Consider the start-ups who have failed or in the Zomby stage, they were mostly driven by technology, and concerned only whether it is feasible, which they have been forgot about the bottom line that every businesses aimed for which is making profit, not even the maximize profits that is fundamental objective of economist, nor maximize sales that is the aim of marketers.

In my opinion, there are only two reasons why the start-ups failed, which are:

  1. The businesses are not viable —Some of them did not understand well of how to run their businesses. Some of them could not complete with their competitors. Some of them did not have a well cost-revenue management. Many of them answered their users’ needs, yet can’t make money as the users did not want to pay for their innovations, i.e. their products are not desirable or it can be easily be substituted or replace by its direct / indirect compeitiors.
  2. People — there are two important groups of people to be considered here, namely users and founders (management of the Start-ups). Many start-ups developed their products based on their founders’ ideas, some have been validated by panelists and judges of Start-up Competitions, but not the users. These could be resulted in undesirable innovation as the users may not willing to pay for these innovations. Some are worse, have never been validated the ideas at all. These are the vision of the founders who made decisions on what and when to be developed and launched; if they believe in themselves, then the innovation are unlikely to answer the users’ needs not be desirable for the users. Another big issue on people is the management skills and vision of the founders or management team. If the founders / management team do not have a well understanding of how to run the business, esp. marketing management, financial management as well as human resource management; it will be very difficult to make money at the end of the day. Decision-makers are very important in running any businesses not just start-ups. The founders should have not only technical skills but also leadership and management skills in order to grow their start-ups and make the real money, not living on fund raising.

In order to become grown-up start-ups, innovation or technology alone is not enough. We need the innovation that is a “real-win-worth it” innovation. “Business” and “people” plays a huge role toward success of the businesses. “Business” includes but not limit to business model, value propositions, revenue stream, cost structure; it should answer whether this business is viable or not. People are those management team, users, and every stakeholders who involving with developing and validating the products; to answer whether the innovation is desirable or not. Once the innovation is desirable by the users; it means the users are willing to pay for it. So at least the business will have customers and make some money.


Photo Credits:

Photos by Startaê Team, Austin Distel, Ben Kolde, You X Ventures and Proxyclick Visitor Management System on Unsplash

This post was originally published on Jan 2nd, 2020 by Suthasinee Susiva, PhD under A Cuppa Academy Publication at https://medium.com/a-cuppa-academy/whats-lead-to-failure-of-start-ups-7a72c8a1b8a2